เปิดโผ12ฉายา"คนกีฬา"

นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นธรรมเนียมในแต่ละปีที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ จะตั้งฉายาให้กับบุคคลในวงการกีฬา ซึ่งมีข่าวโดดเด่นในสายตาของสื่อมวลชนสายกีฬาในรอบปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้จะมีฉายาเพียงแค่ 10 คน แต่ในปีนี้สมาคมฯ ได้ตั้งฉายาให้กับคนในวงการจำนวน 12 คน เนื่องจากใน 1 ปี มี 12 เดือน จึงตั้งฉายาคนกีฬาจำนวน 12 คน ให้เท่ากับจำนวนเดือน ดังต่อไปนี้

นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง "รมต.กีฬา" เป็นสมัยที่ 2 ก็ยังไม่มีบทบาทหรือผลงานในด้านกีฬาอย่างเด่นชัดสักเท่าไร หรือเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีด้วยซ้ำ จนคนในวงการกีฬาคิดว่าเป็นลูกเมียน้อย จึงตั้งฉายาให้ว่า "ชุมพลไม่สนกีฬา"

นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถือเป็นข้าราชการที่เข้ามานั่งเก้าอี้อธิบดีกรมพลศึกษาแบบไม่ค่อยไม่ใครรู้จักมากนัก จากนั้นนั่งทำงานในตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษาได้ประมาณ 6 เดือน ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แบบทุกคนคาดไม่ถึง จึงได้ฉายา "ปลัดติดจรวด"

"บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ภายหลังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีก 1 ตำแหน่ง จึงทำให้การทำงานในตำแหน่งประธานโอลิมปิคฯ ลดน้อยลง เพราะต้องไปดูแลบริหารงานเกี่ยวกับกองทัพเป็นหลัก จึงได้รับฉายา "ประธาน (นาย) ทหารเกณฑ์"

"บิ๊กหนุ่ม" นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย รอบปีที่ผ่านมา "บิ๊กหนุ่ม" เจอเรื่องราวความขัดแย้งภายในสมาคมกีฬามาตลอดทั้งปีทั้ง สมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ สมาคมบาสเกตบอล และสมาคมกีฬายิงปืน สุดท้ายก็ต้องคอยแบกภาระไว้ทุกสมาคม เรียกว่าเป็นหนังหน้าไฟ หรือคอยเป็นกันชนในความขัดแย้งต่าง ๆ จึงได้รับฉายา "หนุ่มกันชน"

"บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทโอสถสภาจำกัด มีชื่อเป็นตัวเต็งที่จะนั่งบริหารเก้าอี้สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ตั้งแต่การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 แต่เมื่อช่วงใกล้เลือกตั้งกลับเจอเหตุขัดข้องทางเทคนิค แม้คนวงการกีฬาจะยกย่องว่า "บิ๊กต้อม" เป็นคนที่มีหัวใจเกินร้อย แต่เมื่อมาเจอปัญหามากมาย จนเกิดความอึดอัดใจ จึงขอถอนตัวไม่ลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ก็ได้รับฉายาว่า "ใจเกินร้อย แต่ถอยดีกว่า"

"เสธอ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่สอบตกจากการเลือกนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย แข่งกับ พล.อ.นรินทร์ แทบประสิทธิ์ แต่สุดท้ายเพราะได้อิทธิพลจากสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ หรือ ไอบ้า มาช่วยจึงทำให้ตั้งสมาคมมวยขึ้นมาอีกหนึ่งสมาคมฯ จนสามารถเข้าไปนั่งบริหารงานในตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย จึงได้ฉายา "อ้ายบุญ (ไอบ้า) อุ้ม"

"บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา "บังยี" เจอแต่มรสุมหนักมาตลอดทั้งปัญหาการเลือกตั้งนายกสมาคม ปัญหาเกี่ยวกับฟีฟ่า ปัญหาเกี่ยวกับเอเอฟซี และปัญหาเกี่ยวกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่ช่วงแรกยังไม่มีโค้ชมาทำทีม อีกทั้งการถูกกล่าวหาต่าง ๆ นานา ซึ่ง "บังยี" สามารถฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ด้วยดี รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ เขตหนองจอก แต่ "บังยี" ยังสามารถต่อสู้กับ "น้องน้ำ" ด้วยการสูบออกอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้น้ำไม่ท่วมศูนย์ฝึกฯ จึงได้รับฉายา "ยี เอาอยู่"

"วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ชาวเยอรมัน เป็นผู้ที่ปลุกกระแสให้กับทีมฟุตบอลชาติไทยชุดใหญ่ ในช่วงที่กำลังประสบภาวะวิกฤติและอยู่ห้วงขาลง แต่ด้วยเพราะฝีมือในการเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม และมีความละเอียด ทำให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่มีระบบการเล่นที่ดีขึ้นผิดหูผิดตาและมีความแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จนมีลุ้นเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกโซนเอเซีย และสามารถเรียกศรัทธากลับคืนจากแฟนบอลสำเร็จ ซึ่งผลมือการทำทีมของเขาราวกับมีเวทมนต์เหมือนพ่อมดในภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จึงได้รับฉายา "วินนี่ พอตเตอร์"

"น้าเหม่ง" นายประพล พงษ์พานิช กุนซือทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ซึ่งก่อนการแข่งมีการออกข่าวคุยไว้เยอะว่าจะชนะเท่านั้นเท่านี้ โดยเฉพาะในการแข่งขันกับแชมป์เก่า "มาเลเซีย" บอกว่าจะชนะแน่ 3-0 แต่ทีมไทยกลับแพ้ 1-2 และสุดท้ายทีมชาติไทยก็ตกรอบแรกซีเกมส์ ทำให้  "น้าเหม่ง" ถูกมองว่าไม่ใช่โค้ชที่มีฝีมือจริง จึงได้ฉายา "กุนซือเสิ่นเจิ้น" เพราะเมืองเสิ่นเจิ้น ในประเทศจีน เป็นแหล่งสินค้า "ก๊อบปี้" ที่เหมือนของจริงมากที่สุด

"อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน จากการที่ได้รับ 2 ใบแดงในการลงแข่งขันให้กับทีมชาติไทย 2 รายการ ใบแรกคือศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ที่ทีมชาติไทยบุกไปแพ้ทีมซาอุดิอาระเบีย 0-3 จากนั้นเพียงข้ามคืนก็บินกลับมาเตะฟุตบอลในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้ใบแดงอีก ภายในระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ทีมไทยแพ้มาเลเซีย ตกรอบแรกอีกครั้ง รวมทั้งการทำฟาวล์อย่างรุนแรงในเกมไทยพรีเมียร์ลีก ในการลงเล่นให้กับสโมสรบุรีรัมย์ พีพีเอ ต้นสังกัดของ ธีราทร จนได้รับโทษแบน จึงได้รับฉายา "แดงจังแก"

"ป๋าปอ" นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในสมาคมเทควันโด มาตลอดตั้งแต่เหรียญทองในระดับซีเกมส์ เหรียญทองในเอเชี่ยนเกมส์ จนถึงเหรียญเงินและเหรียญทองแดงในโอลิมปิกเกมส์ ที่ผ่านมา รวมถึงความสำเร็จในรายการนานาชาติหลายรายการ อีกทั้งการคว้าโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2012 "ลอนดอนเกมส์" แต่ก็ยังไม่ยอมอยู่เบื้องหน้า ขอเป็นเบื้องหลังตลอด จึงได้รับฉายา "ป๋าปอ ปิดทองหลังพระ"

"เสี่ยจอห์นนี่" นายสุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา นายกสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เป็นผู้ที่ปลุกกระแสและกอบกู้ชื่อเสียงให้กับวงการบาสเกตบอลไทย ในช่วงที่ประสบวิกฤติอย่างหนัก เขาสามารถพาทีม "ช้างไทยแลนด์ สแลมเมอร์ส" แชมป์อาเซียนบาสเกตบอลลีก หรือ "เอบีแอล" ฤดูกาล 2010-11 มาครองอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความคึกคักให้วงการยัดห่วงไทยอย่างมาก นอกจากนี้ยังนำพาทีมบาสเกตทีมชาติไทยไปสร้างผลงานสุดหรูในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 โดยทีมหญิงได้เหรียญทองมาครองอีกครั้ง ในรอบ 16 ปี ส่วนทีมชาติไทยเหรียญเงิน ด้วยผลงานขั้นเทพ จึงได้รับฉายาว่า "จอห์นนี่ สแลมดังค์"