ปลัดสธ.คาดรู้ผลขอก.พ.บรรจุลูกจ้างชั่วคราวกว่า 31,000 อัตราเป็นขรก.เดือนส.ค.
Post By : tharatip
IP Address : 182.53.100.223
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าการแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรของสาธารณสุข โดยขอ ก.พ. บรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการพลเรือนกว่า 31,000 อัตรา ในจำนวนนี้เป็นพยาบาลวิชาชีพกว่า 17,000 อัตรา คาดรู้ผลในเดือนสิงหาคม 2555 นี้ และจัดทำระเบียบพนักงานกระทรวงสาธารณสุข รองรับลูกจ้างชั่วคราว ไว้เป็นทางเลือกที่มั่นคง เงินเดือนสูงกว่าราชการ 15 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกองทุนบำเหน็จฯ ดำรงชีพหลังเกษียณ
วันนี้ (12 มิถุนายน 2555) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมชัย นิจพานิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบตัวแทนพยาบาลวิชาชีพที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวของโรงพยาบาล ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศกว่า 500 คน ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี เพื่อชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหากำลังคนของกระทรวงฯและความคืบหน้าการบรรจุ ลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการพลเรือน
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาการเจ็บป่วยของประชาชน และจัดบริการด้านสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.บุคลากร 2.การจัดการป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง และ3.การพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่เป็นปัญหาที่เร่งด่วนคือเรื่องบุคลากร ซึ่งเป็นกลไกหลักการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข มีหน่วยบริการสุขภาพครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 10,000 แห่ง ดูแลผู้ป่วย 24 ชั่วโมง มีบุคลากรทั้งหมด 340,000 คน แต่เป็นลูกจ้างชั่วคราวมากถึง 120,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพยาบาลวิชาชีพ และมีความเสี่ยงการสูญเสียออกจากระบบตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบประกันสุขภาพ ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น จาก 110 ล้านครั้ง เป็น 150 ล้านครั้งต่อปี
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ในการแก้ไขปัญหาบุคลากรได้วางแผนไว้ 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1.การขอบรรจุลูกจ้างชั่วคราวที่ทำหน้าที่ให้บริการรักษาพยาบาลให้เป็นข้า ราชการพลเรือน ในปี 2555 นี้ จำนวน 31,914 อัตรา ในจำนวนนี้เป็นตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ 17,000 อัตรา แนวทางที่ 2 คือ การจัดทำร่างระเบียบพนักงานกระทรวงสาธารณสุข บรรจุลูกจ้างชั่วคราวที่เหลืออีกประมาณ 90,000 อัตรา ซึ่งจะได้รับเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการ ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ มีสิทธิอบรมพัฒนาความรู้ความชำนาญในสายวิชาชีพ และมีกองทุนบำเหน็จบำนาญคล้าย กบข. เมื่อเกษียณอายุจะได้รับเงินกองทุนสำหรับดำรงชีพ ขณะนี้ร่างระเบียบเรียบร้อยแล้ว และแนวทางที่ 3 การออกจาก ก.พ. จากการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. แนวทางที่มีความเป็นไปสูง คือแนวทางที่ 1 และ 2 ซึ่งจะเดินควบคู่กัน
ทั้งนี้ ตำแหน่งที่ขอ ก.พ. จำนวน 31,914 ตำแหน่งนั้น ได้มอบให้นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะหารือกับ ก.พ. จะรู้ผลในเดือนสิงหาคม 2555 นี้ ในการบรรจุ หากได้พร้อมกันทั้งหมดตามจำนวนที่ขอไป ก็สามารถดำเนินการบรรจุได้ทันที แต่หากเป็นการทยอยบรรจุเป็นรายปีไม่พร้อมกัน ก็จะต้องจัดทำหลักเกณฑ์การบรรจุเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ในกลุ่มของพยาบาลวิชาชีพจะพิจารณาตามปีที่จบการศึกษา และปีที่เริ่มทำงานในสถานบริการสาธารณสุข ไม่เกี่ยวกับโควตาของโรงพยาบาล
Message!
หากต้องการตอบกระทู้ Webboard กรุณาเข้าใช้ระบบก่อนนะค่ะ..กระทู้ตอบกลับ
ความคืบหน้า
วานนี้ (19 มิ.ย.) ที่ ถ.พระราม 5 เลียบคลองเปรมประชากร ฝั่งตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล มีกลุ่มเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 2,000 คน เดินทางมาจากทั่วประเทศ เพื่อชุมนุมติดตามทวงถามข้อเรียกร้องรัฐบาล มีมติให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) มีการดำเนินการเปิดกรอบอัตรากำลังใหม่สำหรับบรรจุพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวกระทรวงสาธารณสุขเป็นข้าราชการ
นายอนุสิษฐ์ เป็งแก้ว ผู้ประสานงานกลางพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กล่าวว่า ทางเครือข่ายได้เข้ายื่นเรื่องกพ.แล้ว เพื่อให้ดำเนินการเปิดอัตราบรรจุลูกจ้างชั่วคราว 17,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะรอคำตอบจากรัฐบาล ซึ่งหากยังไม่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจก็จะยกระดับการชุมนุม และจะไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งทุกครั้ง
วันเดียวกันนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนนายกฯ รับมอบหนังสือการขอบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนของกลุ่มตัวแทนพยาบาลวิชาชีพ ที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 25 คน ที่โรงแรมรอยัลคลิป บีช พัทยา ในการประชุมครม.สัญจร
นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ มีตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวของโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศมากถึง 129,458 คน ไม่สามารถบรรจุเป็นข้าราชการได้ เนื่องจากมติของคปร. ทำให้กระทบต่องานบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขเป็นอันมาก และแนวโน้มการสูญเสียกำลังคนกลุ่มนี้เป็นไปได้สูง
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ดังนั้น สธ.จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติการแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคนของกระทรวงฯ 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การขอกรอบอัตราข้าราชการใหม่ และ 2.การขอปรับเพิ่มค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้างชั่วคราวจากฐานค่าจ้างเดิมทุกตำแหน่ง โดยระยะเร่งด่วนขอให้เพิ่มตำแหน่งข้าราชการให้สธ.เพื่อบรรจุลูกจ้างชั่วคราวที่จ้างปฎิบัติงานในกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่ปี 2549 - 2555 และขอกำหนดกรอบอัตรากำลังคนเป็นรายปี รวมในอีก 5 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2556-2560 รวมกว่า 76,900 อัตรา
ทั้งนี้ ในการบรรจุพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งเป็นสายงานที่จำเป็นต่อบริการสุขภาพ และค้างบรรจุมากที่สุดจำนวน 31,914 อัตรา จะใช้ 3 หลักเกณฑ์ โดยจะพิจารณาจากปีที่เริ่มจ้าง จากพื้นที่ทุรกันดาร และจากผลการปฏิบัติงาน
นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับเงินช่วยค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้างชั่วคราวทุกตำแหน่ง ซึ่งใช้เงินบำรุงของแต่ละสถานพยาบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจะขอปรับเพิ่มในอัตรา 700 บาท เช่นเภสัชกร ค่าจ้างเมื่อแรกบรรจุ 11,030 บาท จะได้รับเป็น 11,730 บาท รวมทั้ง 21 สายงานต้องใช้เงินเพิ่มเดือนละ 90,620,600 บาท ให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 - 30 กันยายน 2555 รวม 9 เดือน เป็นเงิน 815,585,400 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่ที่ทำงานด้วยความเสียสละ เพื่อประชาชน.
Post โดย : tharatip Date: 1469-06-22 13:58:09 ip: 118.174.36.54
บัญชีโครงสร้างอัตราค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ (เงินบำรุง) สำหรับกลุ่มวิชาชีพและ
กลุ่มสนับสนุน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(ว 385 / 20 มิถุนายน 2555)
Post โดย : tharatip Date: 1469-06-22 14:06:26 ip: 118.174.36.54