Theme Colors
Layouts
Wide Boxed

News! ทนายค่าย ป.ประมุข แถลงฟ้อง 3 รายการ

รายละเอียดข่าว..

ทนายค่าย ป.ประมุข แถลงฟ้อง 3 รายการ

ทนายค่าย ป.ประมุข แถลงฟ้อง 3 รายการ


กกท.ยัน บัวขาว ผิดชกไทยไฟต์
 

กกท.ยัน บัวขาว ผิดชกไทยไฟต์
 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย DuangAesthetic


ทนาย ค่าย ป.ประมุข แถลงฟ้อง 3 รายการ แนะ ถ้าอยากให้เรื่องจบ ให้ไปพบกำนันแก๊

จากกรณีที่ทาง กกท. ยืนยันว่า ผู้จัดงานไทยไฟต์ และบัวขาว ผิดพระราชบัญญัติกีฬามวย ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด วันนี้ (19 เมษายน) นายวิวรรธ์ แสงสุริยะฉัตร ทนายความ ค่าย ป.ประมุข ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ...

ในวันที่ 17 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา "บัวขาว ป.ประมุข" หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ ขึ้นชกใน "ไทยไฟต์" ซึ่งเป็นการผิด พ.ร.บ.มวย และถือเป็นการฉีกกฎหมายทำให้ค่าย ป.ประมุข ได้รับความเสียหาย ดังนั้นทางค่าย ป.ประมุข จำเป็นต้องฟ้องร้องทางกฎหมาย โดยแยกเป็น 3 ส่วน ดังนี้


1. ฟ้องบริษัท สปอร์ต อาร์ต ซึ่งเป็นฝ่ายจัดการแข่งขัน เพราะถือว่าทำผิดกฎหมาย

2. ฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ที่ปล่อยให้ "บัวขาว" ขึ้นชก ทั้งที่รู้ว่าผิด พ.ร.บ.มวย

3. ฟ้อง "บัวขาว" กรณีทำผิดสัญญากับทางค่าย


อย่างไรก็ตาม นายวิวรรธ์ ทนาย ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าหากบัวขาวต้องการให้เรื่องทุกอย่างจบ ให้มาพบกับ กำนันแก๊ หรือ นายประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายมวย ป.ประมุข และตอบคำถามต่อหน้าผู้สื่อข่าว ในวันแถลงข่าว แล้วเรื่องทุกอย่างจะจบทันที


กกท.ยัน บัวขาว ผิดชกไทยไฟต์ - กำนันแก๊สับ อกตัญญู


กกท.ยืนยัน ผู้จัดงานไทยไฟต์ และบัวขาว ผิดพระราชบัญญัติกีฬามวยทั้งคู่ อาจโดนปรับ-ยึดใบอนุญาติ แต่ไม่ถึงติดคุก ส่วนหัวหน้าค่าย ป.ประมุข เสียงแข็ง งานนี้ฟ้องแน่ อัดอกตัญญู

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เปิดเผยถึงกรณีที่ บัวขาว ป.ประมุข ขึ้นชกไทยไฟต์ 2012 ที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้ทั้งผู้จัดงาน และนักชก ต่างทำผิดพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 เนื่องจาก กกท.อนุญาตให้จัดงานได้ หลังมีการถอนชื่อบัวขาวออกจากรายการแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาจริง บัวขาวกลับขึ้นชกบนเวทีในฐานะตัวสำรอง ซึ่งนั่นถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

โดยบทลงโทษในคราวนี้ ผู้จัดงานอาจโดนถอนทะเบียนชั่วคราว หรือโดนสั่งพักใช้ใบอนุญาต ห้ามจัดงานใด ๆ ตามกำหนดระยะเวลาที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินครั้งละ 6 เดือน ส่วนของบัวขาวก็ถือว่าผิดเรื่องฝ่าฝืนพระราชบัญญัติกีฬามวย ว่าด้วยการสังกัดและย้ายสังกัดค่ายมวย จึงมีบทลงโทษโดยอาจถูกยึดใบอนุญาตการชกชั่วคราว 6 เดือน หรือยึดแบบไม่มีกำหนด ทว่า ทาง กกท.ก็ต้องรอให้มีเจ้าทุกข์เข้ามาร้องเรียนก่อนจึงจะดำเนินการลงโทษทั้งสองฝ่ายได้ อย่างไรก็ตาม ในกรณีของบัวขาว การยึดใบอนุญาต ไม่ได้เป็นคดีอาญา ดังนั้นจึงไม่ได้มีบทลงโทษถึงขั้นติดคุกอย่างที่เข้าใจกัน ไม่เหมือนกรณีล้มมวยที่อาจถูกจำคุกถึง 5 ปี

ทางด้าน นายประมุข โรจนตัณฑ์ หัวหน้าค่าย ป.ประมุข ได้ออกมาเปิดเผยว่า รู้สึกผิดหวังที่บัวขาวพูดถึงปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในการแถลงข่าวหลังการชกไทยไฟต์เหมือนเป็นคนอกตัญญู เพราะที่ผ่านมาอยู่กันแบบพ่อ-ลูกมาตลอด 20 ปี ดังนั้นขอเวลาอีก 2-3 วัน ทางค่ายจะรวบรวมข้อมูลก่อนดำเนินการตามกฎหมาย โดยการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ ฟ้องบัวขาว และฟ้องผู้จัดไทยไฟต์



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






[17 เมษายน] เซอร์ไพรส์! บัวขาว โผล่ไทยไฟท์ น็อคคู่ชกรัสเซียยก 2




 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย ThePenguinbear

บัวขาว โผล่เซอร์ไพรส์แฟนมวยในศึก THAI FIGHT หลังถูกค่าย ป.ประมุข สั่งห้าม โดยสามารถน็อคคู่ชกรัสเซียได้ในยกที่ 2 เผยทำเพื่อประเทศชาติ พรุ่งนี้ติดคุกก็ยอม

จากกรณีที่ โปรโมเตอร์จัดคู่มวยรายการ THAI FIGHT ประกาศแจ้งว่าค่ำคืนวันนี้ (17 เมษายน) บัวขาวป.ประมุข อาจไม่ได้ขึ้นชก เนื่องจากค่าย ป.ประมุข ยื่นเรื่องคัดค้าน พร้อมกับขู่จะดำเนินคดีตามกฏหมายนั้น

ล่า สุด ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. วันนี้ (17 เมษายน) บัวขาว ป.ประมุข โผล่ทำเซอร์ไพรส์ขึ้นเวทีศึกมวยไทยไฟต์ 2012 ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี สร้างความตกตะลึง พร้อมกับเรียกเสียงเชียร์จากแฟน ๆ ได้อย่างล้นหลามเลยทีเดียว

โดย บัวขาวขึ้นเวทีเป็นคู่ที่ 4 ในรุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท 70 กิโลกรัม พบกับรัสเทม ซาริโพว์ จากรัสเซีย ผลการชกปรากฏว่า บัวขาวสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอีกเช่นเคย ทั้งสาดแข้งและรัวหมัดจนสามารถน็อคคู่ต่อสู้ชาวรัสเซียได้ในยกที่ 2

ทั้งนี้ ภายหลังการชก บัวขาว เปิดใจทั้งน้ำตาบนเวทีว่า "ตอนแรกผมนึกว่าจะไม่ได้ขึ้นชกแล้ว เนื่องจากมีปัญหาหลายอย่างที่ทราบกัน แต่ครั้งนี้ผมตั้งใจมาก ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งค่ายเก่า หรือฝ่ายจัดการแข่งขันไทยไฟต์ ย่อมรู้ถึงความตั้งใจของผม ที่ ผ่านมาผมตั้งใจซ้อม ผมอยากแข่งเพราะเป็นแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ที่สำคัญผมไม่ได้ขึ้นมาเพื่อตัวเอง แต่เพื่อประเทศชาติ เพื่อชาวจังหวัดสุรินทร์ วันนี้คุณพ่อและญาติพี่น้องก็ตามมาเชียร์ถึงที่นี่ ผมจึงไม่สามารถทิ้งความฝันได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากพรุ่งนี้ผมต้องติดคุกก็ยอม" พร้อมกันนี้ บัวขาวยังได้ก้มลงกราบคุณพ่อเล็ง วัย 62 ปีด้วยเช่นกัน



 



 
คลิป บัวขาวป.ประมุข พบกับรัสเทม ซาริโพว์ จากรัสเซีย
 



คลิปบัวขาวเปิดใจหลังขึ้นชกไทยไฟต์ 2012
 



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


[15 มีนาคม] บัวขาว กลับสุรินทร์ ย้ำไม่หวนค่าย ป.ประมุข

บัวขาว กลับสุรินทร์ ย้ำไม่หวนค่าย ป.ประมุข

บัวขาว กลับสุรินทร์ ย้ำไม่หวนค่าย ป.ประมุข

บัวขาว กลับสุรินทร์ ย้ำไม่หวนค่าย ป.ประมุข
 

บัวขาว กลับสุรินทร์ ย้ำไม่หวนค่าย ป.ประมุข (ไอเอ็นเอ็น)

ยอดนักชก"บัวขาว ป.ประมุข" กลับบ้านเกิดสุรินทร์ ท่ามกลางบรรยากาศต้อนรับอบอุ่น ย้ำ ไม่หวน ค่าย ป.ประมุข แน่นอน อนาคตขอปรึกษาญาติก่อน

 
เมื่อวานนี้ (14 มีนาคม) หลัง บัวขาว ป.ประมุข เดินทางกลับ จ.สุรินทร์ บ้านเกิด ท่ามกลางการต้อนรับแบบชาวบ้านอย่างอบอุ่น ที่บ้านสองหนอง ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ หลังจากที่ได้ห่างเหินจากบ้านหลังนี้ไป ร่วม 20 ปี หลังเข้าสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านในหมู่บ้านสองหนอง ที่ทราบข่าว ได้เดินทางมาต้อนรับกันเป็นจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยบรรยากาศที่แสนอบอุ่น โดย บัวขาว ก้าวลงจากรถและเดินไปยังลานหน้าบ้าน บรรดาญาติ ๆ ก็วิ่งเข้ามาสวมกอด และจับไม้จับมือกันอย่างอบอุ่น บางคนถึงกับอ่านคำขวัญที่เขียนไว้รอต้อนรับ บัวขาว ด้วย

 
ขณะที่ นายเส็ง บัญชาเมฆ อายุ 64 ปี พ่อของบัวขาวเห็นลูกชาย ก็ร้องไห้และวิ่งมากอดด้วยความดีใจ และยังมานั่งสวมกอดลูกชายด้วยความรักและห่วงหา ขณะ บัวขาว ย้ำ ไม่กลับ ค่าย ป.ประมุข ส่วนอนาตขอใช้เวลาปรึกษาหารือกับพ่อ ญาติพี่น้อง ก่อนว่า จะเดินทางไปในทิศทางใด อยากให้เย็นลงสักพักก่อน หรืออาจจะกลับมาอยู่ที่บ้านก็เป็นไปได้

นายเส็ง กล่าวว่า วันนี้ดีใจมากที่สุดที่ลูกได้กลับมาอยู่ในอ้อมกอด หลังมารดาของบัวขาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อครั้งเดินทางกลับจากส่งบัวขาว ไปประจำที่ค่ายมวย ป.ประมุขเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนอนาคตนั้น ตนเห็นว่าแล้วแต่บัวขาวจะทำอะไรตนก็เห็นดีด้วย เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว

 

 

 

 

 
[14 มีนาคม] รอลุ้น! บัวขาว ขึ้นสังเวียนไทยไฟต์ 17 เม.ย.นี้



 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

รอลุ้น! บัวขาว คัมแบ็กขึ้นสังเวียนไทยไฟต์ 17 เมษายนนี้ ด้าน กกท. เร่งไกล่เกลี่ยให้ทั้งคู่ตกลงกันได้ เนื่องจาก ทั้งบัวขาว และค่าย ป.ประมุข เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

จากกรณีที่นักมวยไทยระดับซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยอย่าง "บัวขาว ป.ประมุข" เจ้าของฉายา "แบล๊กโกลด์" หรือ "ดำ ดอทคอม" ได้ออกมาแถลงข่าวครั้งแรกในวันที่ 12 มีนาคม หลังจากหายตัวไปจากค่ายมวย ป.ประมุข ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยบัวขาวได้กล่าวสั้น ๆ ว่า สาเหตุที่หายตัวไป เป็นเพราะน้อยใจคำพูดของผู้ใหญ่ในค่าย รวมไปถึงร่างกายยังบาดเจ็บไม่สามารถขึ้นชกติดต่อกันได้ พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินแต่อย่างใด และจะไม่กลับไปขึ้นชกในฐานะนักมวยค่าย ป.ประมุข อีกแน่นอนนั้น

ล่าสุด วานนี้ (13 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง หัวหน้าค่าย ป.ประมุข คือนายประมุข โรจนตัณฑ์ หรือ กำนันแก๊ และนายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ ผู้จัดการส่วนตัวของ บัวขาว โดยทั้งคู่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใด ๆ เพิ่มเติม

ส่วนด้านนายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ทั้งบัวขาว และค่ายป.ประมุข ได้ขึ้นทะเบียนอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. อยู่แล้ว ซึ่งทาง กกท. ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้ และจำเป็นที่จะต้องเข้าไปแก้ปัญหา ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังจะไม่มีเจ้าทุกข์ แต่ก็พบว่าเกิดความไม่ลงรอยกันของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณีดังนี้...

1.เรื่องส่วนตัว อาทิ การใช้คำพูดของทางค่าย อาจทำให้บัวขาวน้อยใจ
2.เรื่องค่าตอบแทน ถือว่าอยู่ในอำนาจของ กกท. เพราะระเบียบของคณะกรรมการกีฬามวยตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า นักมวยจะต้องได้เงินค่าตัวไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด ทั้งนี้ หากกรณีของบัวขาวเข้าข่าย ก็ต้องนำรายละเอียดของสัญญาระหว่างบัวขาวกับค่ายมาศึกษา

รองผู้ว่า กกท. กล่าวต่อว่า ในฐานะองค์กรของรัฐ ตนจะเป็นตัวกลางนำทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกัน เพราะชื่อของ บัวขาว ป.ประมุข นั้นโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งทั้งบัวขาว และทางค่ายเองก็เป็นการประชาสัมพันธ์ และสร้างชื่อเสียงให้กับมวยไทยมาโดยตลอด จึงไม่อยากให้ทั้งสองฝ่ายผิดใจกัน อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์นี้ ตนจะส่งตัวแทนจาก กกท. เข้าไปหารือกับทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ตกลงกันได้ ซึง ทางพ.ร.บ.กีฬามวย ของประเทศไทยนั้น ให้ความคุ้มครองทั้งตัวนักมวยและค่ายมวยอยู่แล้ว

ขณะที่ แหล่งข่าวจากวงการมวย เปิดเผยว่า บัวขาว อาจจะไม่ได้ขึ้นชกใน "ไทยไฟต์ เมดอินไทยแลนด์ 2012" รอบเปิดตัว หรือรอบ "ซูเปอร์ไฟต์" ของศึกไทยไฟต์ 2012 ฤดูกาลใหม่ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา จ.ชลบุรี วันที่ 17 เมษายนนี้ ส่วนอีกแหล่งข่าวหนึ่งก็เปิดเผยว่า "เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง" อดีตแชมป์ไทยไฟต์ ปีเดียวกันแต่คนละรุ่น ก็จะถอนตัวจากรายการนี้ด้วยเช่นกัน

ส่วนทางด้าน นายนพพร วาทิน ประธานกรรมการ บริหาร บริษัท สปอร์ต อาร์ต จำกัด และประธานจัดไทยไฟต์ กล่าวว่า ในขณะนี้ บัวขาว ยังไม่ได้ปฏิเสธขึ้นชกแต่อย่างใด ซึ่งทางเราก็รอลุ้นคำตอบว่า บัวขาวจะขึ้นชกในวันที่ 17 เมษายนนี้หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็มีคนมากมายเข้ามายื่นมือ ช่วยไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาร่วมมือกันเป็นจำนวนมาก

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



[12 มีนาคม] บัวขาว ฉีกสัญญา ป.ประมุข ลั่นไม่กลับค่าย


บัวขาว ป.ประมุข

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


บัวขาว แถลงเปิดใจหลังหายตัว ประกาศยกเลิกสัญญา ค่าย ป.ประมุข บอกร่างกายบาดเจ็บ ทำให้ชกตามคิวไม่ไหว อยากขอพักบ้าง ย้ำเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา

หลังจากเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บัวขาว ป.ประมุข ยอดมวยไทยไฟท์ เจ้าของแชมป์เค-วัน 2 สมัย เก็บข้าวของหายตัวออกจากค่าย ป.ประมุข ที่ ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา และมีข่าวต่อเนื่องออกมาเป็นระยะว่า สาเหตุที่หายตัวไปนั้น เป็นเพราะเรื่องเงินที่เจ้าตัวไม่พอใจทางค่าย อีกทั้งยังมีคิวชกที่แน่นจนเกินไปนั้น ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ (12 มีนาคม) บัวขาว ป.ประมุข ได้ยอมเปิดแถลงข่าวชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว

โดย บัวขาว ป.ประมุข ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาได้ไปอยู่กับเทรนเนอร์สายชล ส่วนสาเหตุที่หนีออกจากค่าย ป.ประมุข จ.ฉะเชิงเทรา ไปนั้น เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาทางด้านจิตใจเล็กน้อย อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายดี ทำให้ไม่สามารถที่จะขึ้นชกตามโปรแกรมที่วางไว้ ติดต่อกันหลายไฟท์ได้ และขอยืนยันว่าตนไม่ได้มีปัญหาในเรื่องเงินตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ขอใช้เวลาพักผ่อนรักษาอาการบาดเจ็บให้หายดีเสียก่อน ส่วนจะกลับมาขึ้นสังเวียนผ้าใบอีกครั้งเมื่อไรนั้น ตอนนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ นอกจากนี้บัวขาวได้ตัดสินใจฉีกสัญญากับ ค่าย ป.ประมุข แล้ว


บัวขาว ขอหลบพักอีสาน ยันไม่แขวนนวม

 
สุริยันต์ สาธร เผย บัวขาว ป.ประมุข ขอหลบพักร่างกายที่อีสานสักพัก ยันไม่แขวนนวม เมื่อพร้อมจะกลับมาแถลงเปิดใจแน่นอน

 
จากข่าว การหายตัวไปของ "บัวขาว ป.ประมุข" หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ นักชกไทยชื่อก้องโลก ดีกรีเจ้าของแชมป์ K-1 ที่ประเทศญี่ปุ่น 2 สมัย ซึ่งหายตัวไปอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา และไม่ขอเปิดเผยที่อยู่และสาเหตุการหายตัวครั้งนี้ จนทำให้ญาติ ๆ ครอบครัว รวมถึงเพื่อนนักมวยตามหากันจ้าละหวั่น ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

 
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (12 มีนาคม) นายสุริยันต์ สาธร แชมป์โลกรุ่นไลต์ฟลายเวต สภามวยโลก ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทบัวขาว และเคยอยู่ร่วมค่ายเดียวกันมาก่อน เปิดเผยว่า บัวขาวเคยโทรศัพท์มาหาพร้อมปรับทุกข์ให้ฟัง ซึ่งสาเหตุที่ต้องหนีออกจากค่ายเพราะน้อยใจบางเรื่อง และที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อย เนื่องจากมีโปรแกรมชกและคิวโชว์ตัวมากเกินไป จึงตัดสินใจหนีออกมาพักสมองและร่างกายที่บ้านเพื่อนทางภาคอีสานแต่ไม่ยอมบอกว่าอยู่จังหวัดใด

 
พร้อมกันนี้ บัวขาว ป.ประมุข ยังฝากบอกแฟนคลับให้สบายใจได้และยืนยันว่า ไม่แขวนนวมแน่นอน ตอนนี้ขอใช้ชีวิตส่วนตัวอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ ก่อน พร้อมเมื่อไรจะกลับมาเปิดใจแถลงทุกเรื่อง

 
ทั้งนี้ สำหรับการหายตัวไปของ บัวขาว ป.ประมุข ทำให้ทางค่ายมวย ป.ประมุข ต้องยกเลิกโปรแกรมเดินทางไปชกที่ประเทศฝรั่งเศส คิวโชว์ตัวที่ประเทศอังกฤษ รวมทั้งโปรแกรมขึ้นชกในรายการไทยไฟต์ที่พัทยาในวันที่ 17 เมษายนนี้


สมจิตร เผย ได้คุยกับบัวขาว แต่ยังไม่รู้ว่าอยู่ไหน

ครอบครัวและพี่สาว บัวขาว ป.ประมุข เครียด เป็นห่วงน้องชาย วอนออกมาเคลียร์ ขณะ สมจิตร จงจอหอ เผยได้คุยกับบัวขาว เมื่อ 2 วันที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมบอกอยู่ไหน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดกับการหายตัวไปของ บัวขาว ป.ประมุข หรือ ประมุข กัญญารัตน์ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดัง ที่ล่าสุด คว้าแชมป์รายการ THAI FIGHT ครั้งที่ 2 เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ได้หายตัวไปจากค่าย ป.ประมุข ร่วมอาทิตย์กว่า ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้พากันไปที่บ้านเกิดของบัวขาว ณ บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 บ.สองหนอง ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ทว่า ยังคงไร้ร่องรอยของนักมวยดัง ในบ้านมีแต่เพียงพี่สาวแท้ ๆ ของบัวขาว กัญญารัตน์ บัญชาเมฆ ที่บ้านติดกันเป็นผู้ดูแลบ้านให้เท่านั้น พร้อมวอนผ่านทางสื่อไปถึงบัวขาวว่า อยากให้ บัวขาว ออกมาแถลงข่าวเร็ว ๆ ทางบ้านจะได้รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เป็นตายร้ายดีอย่างไรส่งข่าวมาให้ที่บ้านได้รับข่าวบ้าง ไม่ใช่หายไปอย่างนี้ ทางบ้านทุกคนเป็นห่วงมาก เป็นห่วงกลัวว่าจะโดนลอบทำร้าย อยากให้กลับมาที่บ้าน หรือไม่ก็แถลงข่าวให้เห็นหน้าเห็นตากัน โดยหลังจากที่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ล่าสุด เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว และยังไม่สามารถติดต่อกันได้อีกเลยจนถึงทุกวันนี้

ส่วน สมจิตร จงจอหอ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก ที่กรุงปักกิ่ง ได้เผยกับทีมงานว่า บัวขาว ป.ประมุข ได้ติดต่อมาหาตนทางโทรศัพท์ เมื่อ 2 วันที่แล้ว แต่บัวขาวก็ไม่ยอมเผยว่าอยู่ที่ไหน เพียงแค่บอกเรื่องทั่วไปเท่านั้น






 

คลิป : บัวขาว แถลงข่าวเปิดใจแยกทาง ป.ประมุข
 





ขอขอบคุณข้อมูลจาก


 

 

 

[11 มีนาคม] บัวขาว ป.ประมุข หลบพักสุรินทร์ เหตุน้อยใจได้ค่าตัวน้อย
 


บัวขาว ป.ประมุข
บัวขาว ป.ประมุก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก buakawfans.com

แหล่งข่าวใกล้ชิดเผย บัวขาว ซุ่มเงียบอยู่สุรินทร์ ยันยังไม่อยากติดต่อใคร เผยเหตุน้อยใจค่ายมวยจ่ายค่าตัวไม่เป็นธรรม

จากกรณีที่ "บัวขาว ป.ประมุข" ยอดมวยไทยไฟท์ เจ้าของแชมป์เค-วัน 2 สมัยซ้อน หายตัวปริศนาพร้อมรถยนต์เก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยูป้ายแดง ไปจากค่ายมวย ป.ประมุข ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีกระแสข่าวว่า บัวขาว อยู่ในพื้นที่เขตจังหวัดอีสานใต้ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าอยู่ที่ใดนั้น

ล่าสุด วันนี้ (11 มีนาคม) นายนิเวศน์ อินทร์งาม อายุ 51 ปี คนใกล้ชิด บัวขาว ป.ประมุข เปิดเผยว่า ตนเพิ่งแยกจากบัวขาวเมื่อวันที่ 10 มีนาคม และยืนยันว่าบัวขาว ยังอยู่ใน จ.สุรินทร์ โดยไปพักกับเพื่อนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.สำโรงทาบ ซึ่งเจ้าตัวไม่ขอเปิดเผย และไม่ยอมรับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้ใด ทั้งนี้ ถ้าอยากติดต่อกับใคร บัวขาว ก็จะเปิดโทรศัพท์แล้วโทรไปหาเอง

นายนิเวศน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับสาเหตุที่บัวขาวหนีออกมาจากค่าย ป.ประมุข เนื่องจากน้อยใจทางค่าย ที่หลังการชกทุกครั้ง มักจะแบ่งรายได้ไม่สม่ำเสมอและไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะหลังการชกไทยไฟท์ที่ผ่านมา ที่ทราบเพียงว่าทางไทยไฟท์จ่ายให้ทางค่ายเยอะมาก แต่บัวขาวกลับได้รับค่าตัวเพียงนิดเดียว ประกอบเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าด้วย จึงอยากหยุดพักผ่อนพักฟื้นร่างกายและไม่อยากติดต่อใคร หากพร้อมเมื่อไรก็จะออกมาให้ข่าวเอง ส่วนที่มีข่าวเรื่องการทำค่ายมวยเองนั้น ก็มีผู้เสนอให้บัวขาวไปทำค่ายมวยเองจะดีกว่า เพราะมีคนสนใจลงทุนร่วมมาก แต่ทางบัวขาวก็ยังไม่ตอบตกลง และขอเวลาสักระยะ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



[10 มีนาคม] เปิดปม บัวขาวหายตัว ค่ายยันไม่เกี่ยวเรื่องเงิน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 

เปิดประเด็นเหตุ บัวขาว ป.ประมุข หายตัวลึกลับ ทางค่ายต้นสังกัด ยืนยันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินทอง หรือปัญหาสะสม อีกกระแสข่าวยืนยัน บัวขาวต้องการพักผ่อนทั้งกายและใจ

จากกรณีที่ บัวขาว ป.ประมุข นักชกชื่อดังขวัญใจชาวไทย แชมป์ไทยไฟต์ปี 2554 ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ทีมงานของบัวขาว ได้แตกกระจายกันไปคนละทิศละทาง และเชื่อกันว่า ปัญหาระหว่างบัวขาว กับค่าย ป.ประมุข นั้น มีมานานพอสมควร จึงทำให้นักข่าวเดินทางไปที่ค่าย ป.ประมุข เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โดย เสี่ยอุ๊ ธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ กล่าวว่า จากการที่บัวขาว หายตัวไปนั้น ไม่น่าจะมาจากสาเหตุของเรื่องเงินทอง เพราะตนและบัวขาว รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนมารับช่วงเป็นผู้จัดการ และตนยังย้ำกับบัวขาวเสมอว่า ตนมองบัวขาวเป็นน้อง ไม่ได้มองว่าเป็นลูกจ้างแต่อย่างใด แม้ว่าตนจะเป็นผู้รับเงินก็จริง แต่ส่งผ่านให้กับพี่ชาย ก่อนจ่ายให้บัวขาว เพื่อความโปร่งใสในทุกไฟต์ที่ชก การที่บัวขาวหายไป ก็สร้างความงุนงงให้กับตนเช่นกัน

นอกจากนี้ เสี่ยอุ๊ ยังเปิดเผยต่อไปว่า บางเรื่องที่คนอื่นขอมา ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดความลำบากใจ บัวขาวมีโปรแกรมรับเชิญ ให้ไปโชว์ตัวตามที่ต่าง ๆ ล่าสุด ก็ได้รับเชิญจากรัฐบาลไทย ให้ไปโปรโมตความมั่นใจในประเทศไทยให้กับนักลงทุนต่างชาติ ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งงานดังกล่าว ถือเป็นเกียรติที่ปฏิเสธไม่ได้ ทว่า บัวขาวมีโปรแกรมขึ้นชกต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุด มีขึ้นชกกับ ฟาบิโอ ปินก้า นักชกชาวฝรั่งเศส ในรายการ La Nuit Des Titans ก็ต้องถอนตัวไป เพราะการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย อีกทั้ง บัวขาวยังมีอาการบาดเจ็บสะสม เพราะเป็นคนมีวินัย ขยันซ้อมไม่เคยขาด หากต้องไปโชว์ตัวต่างประเทศ ก็จะส่งผลต่อการฟิตซ้อม กว่าจะกลับมาเข้าค่าย ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ก่อนถึงวันชกก็ยิ่งเป็นปัญหา เจ้าตัวก็ไม่พูด ตนเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเหมือนกัน

ส่วนเรื่องความแตกแยกในค่ายนั้น เสี่ยอุ๊ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะคนที่จากไป คือหมอกายภาพ ที่นับได้ว่า เป็นคนที่เก่งคนหนึ่งของเมืองไทย แต่ด้วยทัศนคติที่ไม่ตรงกัน โปรแกรมก็ออกมาแตกต่างกัน เลยทำให้ไปด้วยกันไม่ได้ แต่ขอรับรองว่า ไม่ได้แตกคอกัน ตอนนี้ขอให้บัวขาวได้พักผ่อนจิตใจสักระยะ แล้วเราจะเปิดแถลงข่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ด้านบัวขาวเอง ได้รับเงินในการขึ้นชก ไฟต์ละ 1 ล้านบาท แบ่งกันคนละครึ่งกับทางค่าย ป.ประมุข ซึ่งแหล่งข่าวยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากเรื่องเงิน หรือเรื่องที่ทางค่ายรับงานมากไป บัวขาวเองก็ออกรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู มูลค่ากว่า 7-8 ล้านบาท และออกไปจากค่ายไม่ต่ำกว่าสามสัปดาห์ และแหล่งข่าวยังยืนยันอีกว่า บัวขาวน่าจะอยู่ในกรุงเทพ แต่อาจอยู่บ้านของเพื่อนสนิท หรือแฟนสาวก็เป็นได้

ทางด้านเพื่อนสาวคนสนิทของบัวขาว ได้ออกมาระบุว่า บัวขาวมีอาการบาดเจ็บ อยากพักผ่อนเงียบ ๆ ประมาณ 2-3 อาทิตย์ แล้วจากนั้นจะกลับเข้าค่าย ตอนนี้อยากพักสภาพจิตใจและร่างกายก่อน เพราะกรำศึกหนักมาเยอะ และยืนยันว่า ไม่ได้หนีไปอยู่กับผู้หญิงแน่นอน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



 

[9 มีนาคม] บัวขาว ป.ประมุข หายตัวไปจากค่ายมวย ไร้ร่องรอย

 


 

สะเทือนวงการมวย เมื่อบัวขาว ป.ประมุข ควบบีเอ็มป้ายแดง หายตัวไปจากค่ายมวย ป.ประมุข ไปตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ยังไร้ร่องรอย

วันนี้ (9 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุ ป.ประมุข หรือ ธีระพัฒน์ โรจนตัณฑ์ ลูกชายกำนันประมุข โรจนตัณฑ์ ผู้จัดการของนักชกดังอย่าง บัวขาว ป.ประมุข นักมวยไทยไฟท์และเจ้าของแชมป์เควันที่ประเทศญี่ปุ่น 2 สมัย เปิดเผยว่า บัวขาวหายจากค่ายมวย ป.ประมุข ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ในวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยการหายตัวไปครั้งนี้ บัวขาวหอบเสื้อผ้าไป 3 ชุด พร้อมรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูป้ายแดง ที่เพิ่งถอยออกมาใหม่ไปด้วย ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าตัวหายไปอยู่ที่ไหน และเหตุผลที่หายจากค่ายไปเพราะอะไร

ผู้จัดการของบัวขาว กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกคนกำลังตามหาบัวขาวอยู่ แต่โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ตอนแรกก็คิดว่าอาจกลับไปจังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดของบัวขาว แต่พอถามพ่อแม่นักมวยชื่อดังแล้วก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ก็ไม่เข้าใจว่าเขาหายตัวไปไหน เนื่องจากสาเหตุอะไร ถ้าเรื่องเงินทอง ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะชกเสร็จแต่ละครั้งบัวขาวก็จะรับเงินสดทันที ไม่มีติดค้าง

ทั้งนี้ ผู้จัดการกล่าวต่อว่า อยากให้บัวขาวติดต่อกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะหากทิ้งช่วงไปนาน ไม่เป็นผลดีแน่นอน นอกจากนี้บัวขาวยังมีรายการชกในต่างประเทศ รวมถึงการโชว์ตัว การสัมมนายังที่อื่น ๆ อีกมากมายรออยู่ อย่างรายการที่บัวขาวจะต้องเดินทางไปชกและสัมมนาที่ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ ตนก็ได้แจ้งถอนไปที่คณะกรรมการแล้ว เพราะคงไม่พร้อมไปชกแน่นอน รวมถึงคิวโชว์ตัวที่ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ก็แจ้งถอนไปแล้วเช่นกัน และในวันที่ 17 เมษายนนี้ บัวขาวมีคิวชกในรายการไทยไฟท์ที่พัทยาอีกด้วย จึงอยากให้กลับมาคุยกันอย่างเปิดอก แล้วจะแถลงข่าวเรื่องนี้ทันที



 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก