News! เตือนประชาชนเลิกกินเห็ดไข่ห่าน และระโงกหิน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย
รายละเอียดข่าว..
เตือนประชาชนเลิกกินเห็ดไข่ห่าน และระโงกหิน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย
เตือนประชาชนเลิกกินเห็ดไข่ห่าน และระโงกหิน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย
เตือนประชาชนเลิกกินเห็ดไข่ห่าน และระโงกหิน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย เนื่องจากในปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากการกินเห็ดป่าแล้ว 13 ราย มาจากภาคเหนือทั้งหมด โดยเป็นผู้เสียชีวิตจากเชียงใหม่ 1 ราย แม่ฮ่องสอน 9 ราย (มี 2 เหตุการณ์แต่เป็นอำเภอสบเมยทั้งหมด)และเพชรบูรณ์ 3 ราย ทุกรายเสียชีวิตจากการกินกลุ่มเห็ดไข่ห่าน และระโงกหิน
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนที่ชอบกินเห็ดป่าให้เลิกกินกลุ่มเห็ดไข่ห่าน และระโงกหิน
ในปีก่อนๆ ก็มักมีรายงานผู้เสียชีวิตจากภาคเหนือ รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหลายเหตุการณ์เป็นการเสียชีวิตทั้งครอบครัว จากรายงานการสอบสวนทางระบาดวิทยาเฉพาะเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานเห็ดในปี พ.ศ.2550-2555 จำนวน 15 เหตุการณ์ พบเหตุการณ์และผู้เสียชีวิตในเขตภาคเหนือสูงสุดร้อยละ 60 (9 เหตุการณ์) รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 40(6 เหตุการณ์) โดยร้อยละ 70 เกิดจากการกินเห็ดป่าในกลุ่มระโงกพิษซึ่งมีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นต่างไปในแต่ละภาค ในภาคเหนือเรียกเห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกเห็ดระโงกหิน เห็ดระงากหรือเห็ดสะงาก เห็ดระโงกตีนตัน และเห็ดไข่ตายซาก (ฮาก)เป็นต้น รูปร่างทั่วไปจะคล้ายคลึงมากกับเห็ดที่กินได้ โดยเฉพาะเห็ดอ่อนที่มีลักษณะเป็นก้อนกลมรีคล้ายไข่หรือดอกยังบานไม่เต็มที่ ในบางเหตุการณ์ที่มีการเสียชีวิตผู้ป่วยเก็บเห็ดมาจากที่เคยเก็บในปีก่อนๆ ซึ่งเคยกินแล้วไม่เป็นพิษ สารพิษที่พบในเห็ดสกุลนี้ที่สำคัญและมีพิษรุนแรงมากที่สุด คือ อะมาท๊อกซิน (Amanitin)และฟาโลท็อกซิน (Phalloidins) เป็นสารพิษที่ไม่ถูกทำลายด้วยความร้อน
อาการอาจเกิดตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมงหลังจากกินเห็ดชนิดนี้ แต่โดยส่วนใหญ่มักเกิดอาการค่อนข้างช้าคือประมาณ 6-12 ชั่วโมง ทำให้กว่าผู้ป่วยจะมาพบแพทย์เห็ดก็ถูกดูดซึมไปจากทางเดินอาหารเกือบหมดแล้ว การล้างท้องจึงมักไม่ค่อยได้ผล อาการแรกๆ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ โดยจะแสดงอาการประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้น แต่จะตรวจพบเอ็นไซม์ตับสูงขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเกิดภาวะตับอักเสบ ตัวเหลือง ตาเหลือง อาการจะรุนแรงมากขึ้น มีระบบเลือด หายใจ และอวัยวะภายในล้มเหลวและเสียชิวิตจากภาวะตับหรือไตวาย ภายในระยะเวลา 4 –16 วัน หลังการกินเห็ดพิษชนิดนี้
ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ใช้ในการแยกชนิดเห็ดที่กินได้และเห็ดพิษในหลากหลายวิธี เช่น การต้มกับข้าวสาร หรือการต้มกับช้อนเงินแล้วเปลี่ยนสี ไม่สามารถนำมาใช้กับเห็ดพิษสกุลนี้ได้ รวมทั้งการเก็บเห็ดในที่เดิมซึ่งเคยกินได้ หรือที่มีรอยแมลงกัดกินก็ไม่ได้แสดงว่าปลอดภัย
วิธีการป้องกันที่ดีที่สุด คือ หยุดกินเห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง เห็ดระโงก หรือเห็ดระงากที่ยังเป็นดอกอ่อน ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนกลมรีคล้ายไข่ เนื่องจากเห็ดสกุลนี้ขณะดอกอ่อนจะมีลักษณะเหมือนกันหมด แยกได้ยากจากเห็ดที่กินได้ และหากเป็นไปได้ควรหยุดกินเห็ดกลุ่มดังกล่าวไปเลยเนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงที่จะไปเจอเห็ดพิษ ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้เห็ดในกลุ่มนี้สามารถทำให้เสียชีวิตได้แม้กินเพียง 1-2 ดอก ควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ดร่วมกับการดื่มสุรา เพราะเห็ดพิษบางชนิดพิษจะรุนแรงขึ้น ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัวควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ด โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคตับและไต ในกรณีกินเห็ดแล้วมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องหรือถ่ายอุจจาระเหลว อาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือร่วมกัน ไม่ควรซื้อยากินเองหรือไปรักษากับหมอพื้นบ้าน จะต้องรีบไปพบแพทย์และให้ประวัติการกินเห็ดทั้งชนิดและปริมาณแก่แพทย์ผู้ให้การรักษาโดยละเอียด เพื่อจะได้รับการรักษาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงและเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต