News! ไข้เลือดออก...โรคร้ายที่ต้องพึงระวัง
รายละเอียดข่าว..
ไข้เลือดออก...โรคร้ายที่ต้องพึงระวัง
ไข้เลือดออก...โรคร้ายที่ต้องพึงระวัง
วันเสาร์ที่ 9 มิย. เวลา 14:15 – 14:30 น. ทางวิทยุ จ.ส. 100 
รายการ : “ล้ำยุคเรื่องสุขภาพ”
ออกอากาศทาง : สถานีวิทยุ จส. 100 (FM 100 MHz.)
วัน และ เวลาออกอากาศ : วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2555 เวลา 14:15 น. – 14:30 น.
ศ.พญ.อุษา ทิสยากร
นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ไข้เลือดออก...โรคร้ายที่ต้องพึงระวัง
ในช่วงฤดูฝน โรคติดต่อที่พบการแพร่ระบาดได้บ่อยก็คือโรคไข้เลือดออก ซึ่งในผู้ป่วยบางราย โรคนี้อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
สำหรับรายการ “ล้ำยุคเรื่องสุขภาพ” ช่วงสุขภาพดีกับพรีม่าในครั้งนี้ เราจะไปพูดคุยกับ ศ.พญ.อุษา ทิสยากร นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก พร้อมด้วยแนวทางการป้องกันโรคนี้
สาเหตุของไข้เลือดออก
สำหรับประเทศไทยไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่เป็นสำคัญ และมียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยไข้เลือดออกเป็นโรคที่สามารถพบได้ในคนทุกวัย อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าคนที่ได้รับเชื้อไวรัสเดงกี่จะต้องป่วยเป็นไข้เลือดออกเสมอไป เพราะในบางรายอาจได้รับเชื้อไวรัสเดงกี่แล้วไม่เกิดโรคได้
อาการของไข้เลือดออก
อาการของผู้ที่ติดเชื้อเดงกี่มีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่ติดเชื้อเดงกี่แล้วไม่มีอาการป่วย เนื่องจากเชื้อเดงกี่มีอยู่ด้วยกัน 4 สายพันธุ์ และในรายที่เคยติดเชื้อสายพันธุ์ใดมาแล้ว หากติดเชื้อสายพันธุ์เดิมอีกครั้งก็จะไม่ป่วยเป็นไข้เลือดออกอีก
2.กลุ่มที่ติดเชื้อเดงกี่แล้วมีอาการป่วยแต่ไม่รุนแรง โดยผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว คล้ายอาการของไข้หวัดใหญ่
3. กลุ่มที่ติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง โดยเฉพาะในรายที่ไปพบแพทย์ช้าเกินไป เนื่องจากผู้ป่วยไข้เลือดออกจะสูญเสียพลาสมาออกไปนอกเส้นเลือดเข้าไปอยู่ในช่องปอด หรือช่องท้อง ซึ่งการสูญเสียพลาสมาเป็นระยะเวลานาน ก็จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในระบบเลือด ซึ่งจะทำให้เลือดแข็งตัวยาก เลือดไหลเวียนไม่พอ มีเลือดออก และช็อกได้ ซึ่งหากไปพบแพทย์ไม่ทันท่วงที อาจทำมให้ถึงแก่ชีวิตได้
อาการของไข้เลือดออกที่สามารถสังเกตเห็นได้
ผู้ป่วยไข้เลือดออกมักจะมีไข้สูงมากในทันที และไข้จะไม่ลดลงง่าย ๆ ด้วยการรับประทานยาหรือฉีดยา นอกจากนั้นผู้ป่วยยังอาจมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน หรือปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งหากพบว่ามีไข้สูงควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที เพราะหากวินิจฉัยได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจจะช่วยให้อาการไม่รุนแรงมากนัก นอกจากนั้นในระหว่างที่ยังสังเกตอาการไม่แน่ชัดก็ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจจะทำให้มีเลือดออกได้ง่าย หรืออาจทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น โดยเฉพาะยาแอสไพริน เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดทำงานไม่ดี และทำให้เลือดออกได้ง่ายด้วย
ทำไมไข้เลือดออกจึงแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝน?
สำหรับประเทศไทยและประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับได้ว่าเป็นแหล่งของโรคไข้เลือดออก ซึ่งสามารถพบโรคได้ตลอดปี แต่จะพบมากในฤดูฝน เนื่องจากมีแหล่งแพร่พันธุ์ยุงลายเพิ่มขึ้น เช่น ในน้ำฝนที่ขังอยู่ตามภาชนะต่าง ๆ เป็นต้น
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระมัดระวังไข้เลือดออกมากเป็นพิเศษ
เด็กทารกเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรระมัดระวังโรคไข้เลือดออกมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเมื่อเป็นไข้เลือดออกมักจะมีอาการรุนแรง โดยอาจจะมีอาการแปลก ๆ แต่วินิจฉัยไม่ค่อยได้ และอีกกลุ่มหนึ่งคือในผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นซึ่งเข้าใจว่าตนเองมีความแข็งแรง เพราะเมื่อมีไข้สูงก็จะปล่อยปละละเลยไม่ไปพบแพทย์ ซึ่งในผู้ป่วยบางรายหากมีปัญหาที่อวัยวะภายในอยู่แล้ว และติดเชื้อไวรัสเดงกี่ก็จะทำให้มีอาการแทรกซ้อนตามมา ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน
การรักษาไข้เลือดออก
ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้รักษาโรคไข้เลือดออกได้โดยตรง การรักษาโรคไข้เลือดออกจึงเป็นการรักษาแบบประคับประคองอาการ และการให้น้ำเกลือเป็นหลักในผู้ป่วยรายที่มีอาการรุนแรงมาก ซึ่งในการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้มีข้อควรระวังคือผู้ป่วยจะมีการรั่วของเส้นเลือด และมีสารพลาสมาออกจากเส้นเลือดไปอยู่เยื่อหุ้มปอดและช่องท้อง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยอึดอัด หายใจไม่ออก แต่เมื่อฟื้นตัวสารพลาสมาจะกลับเข้าสู่กระแสเลือด เพราะฉะนั้นหากไม่ทราบว่าพลาสมากลับคืนสู่เส้นเลือดแล้วและยังคงให้น้ำเกลือแก่ผู้ป่วยอยู่ ก็อาจจะทำให้ผู้ป่วยหัวใจวายได้ ซึ่งระยะเวลาที่มีการรั่วของเส้นเลือดจะกินระยะเวลาประมาณ 1 – 2 วัน ซึ่งในช่วงนี้ผู้ป่วยต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และเนื่องจากผู้ป่วยไข้เลือดออกมักจะมีไข้สูง ดังนั้นผู้ที่ดูแลควรเช็ดตัวให้ผู้ป่วยให้มากที่สุดเพื่อช่วยบรรเทาความร้อน และยังสามารช่วยลดอันตรายจากยาลดไข้ด้วย
การป้องกันไข้เลือดออก
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไข้เลือดออกก็คือการหลีกเลี่ยงไม่ให้ยุงกัด ซึ่งยุงลายเป็นยุงที่พบได้ทั่วไปแม้กระทั่งในบ้าน โดยเฉพาะในที่ที่มีของกองกันอยู่รก ๆ
การพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกพบในประเทศไทยมานานนับครึ่งศตวรรษแล้ว และยังไม่ได้หายไปไหน เนื่องจากการพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก เพราะเชื้อไวรัสเดงกี่มีถึง 4 สายพันธุ์ และมีกลไกการเกิดโรคที่ซับซ้อน ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาจนมั่นใจแล้วว่าวัคซีนมีความปลอดภัย จึงจะนำมาใช้ในคน ซึ่งคิดว่าอีกไม่นานเกินรอเราจะมีวัคซีนไข้เลือดออกใช้เพื่อป้องกันโรคนี้ได้สำเร็จ ซึ่งขณะนี้การพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นทดสอบในคนจำนวนมาก และเป็นที่น่ายินดีว่าประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่ในการทดสอบวัคซีน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่มีระบาดของไข้เลือดออกสูง และมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ดี ตลอดจนทำงานวิจัยแล้วมีความน่าเชื่อถือสูงด้วย