thatumhos.moph.go.th | โรงพยาบาลท่าตุม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
Theme Colors
Layouts
Wide Boxed

News! นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เตือนโรคคอตีบแพร่ระบาด หากมีอาการคล้ายหวัด เจ็บคอ ต้องรีบพบแพทย์

รายละเอียดข่าว..

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เตือนโรคคอตีบแพร่ระบาด หากมีอาการคล้ายหวัด เจ็บคอ ต้องรีบพบแพทย์

สสจ.สุรินทร์ เตือนโรคคอตีบแพร่ระบาด หากมีอาการคล้ายหวัด เจ็บคอ ต้องรีบพบแพทย์

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เตือนอีสานโรคคอตีบแพร่ระบาด หากมีอาการคล้ายหวัด เจ็บคอคล้ายคออักเสบ เสียงก้อง ต้องรีบไปพบแพทย์ แนะให้วัคซีนตั้งแต่เด็ก จนครบ 5 ครั้ง สามารถป้องกันโรคได้

นายแพทย์สอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โรคคอตีบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มักจะเป็นในระบบทางเดินหายใจ ต่อมทอนซิล ลำคอ กล่องเสียงหรือจมูก ซึ่งจะมีการติดต่อทางตรง เช่นผู้ป่วยเป็นพาหนะ ติดจากละอองน้ำมูกน้ำลาย เสมหะของผู้ป่วยหรือจากน้ำนมที่มีเชื้อโรค โดยการใช้ขวดนมร่วมกันของเด็กที่เป็นโรค การติดต่อทางอ้อม เช่น การใช้ภาชนะ ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกันกับผู้ป่วย พบมาในแหล่งชุมชน หรือสถานที่แออัดเช่น สถานเลี้ยงเด็ก ส่วนอาการของโรคคอตีบจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉียบพลัน หลังจากผ่านระยะฟักตัวหรือเมื่อ เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้ว ประมาณ 2-5 วันบริเวณที่ติดเชื้อจะมีแผ่นเนื้อเยื่อสีเทา หรือ สีขาว เกิดที่ผนังของหลอดคอและที่ต่อมทอนซิล รอบๆแผ่นเยื้อสีเทานี้จะบวมแดง อันเนื่องมาจากการอักเสบ อาการโดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีไข้เจ็บคอในหลอดคอ ปวดศรีษะ น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย ถ้าเป็นคอตีบของกล่องเสียง จะมีอาการบวมมาก อาจทำให้หายใจไม่ออก ทำให้เด็กเล็กๆ ตายได้ง่าย แต่ถ้าเป็นคอตีบที่โพรงจมูกจะมีอาการเล็กน้อยและมักจะเรื่อรัง โดยมีน้ำมูกข้างใดข้างหนึ่งอาจมีเลือดปนคอตีบของผิวหนังจะเกิดแผล มีสะเก็ดสีเหลืองหนาบนปากแผล สะเก็ดจะติดแน่นบนผิวหนังมักมีอาการเรื้อรังเช่นเดียวกับคอตีบที่ช่องจมูก

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ผู้ป่วยโรคคอตีบ อาจจะมีโรคแทรกซ้อน อาจเกิดโรคหัวใจอักเสบ หรือมีอาการอักเสบของประสาทสมอง โรคอัมพาตเนื่องจากพิษทางประสาท ทั้งนี้ โรคคอตีบ มักพบมากในเด็กก่อนและระยะต้นๆของวัยเรียน คือ ช่วงอายุ 2-5 ปี หรือพบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับภูมิคุ้มกันก็อาจป่วยเป็นโรคคอตีบได้ สำหรับการตรวจวินิจฉัยโรค จะดูจากอาการผู้ป่วย ตรวจพบเนื้อเยื่อสีเทาหรือสีขาว ที่บริเวณ ซึ่งตัวเชื้อโรคเข้าไปนำเพาะเชื้อ จึงขอให้ประชาชนป้องกัน โดยการให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ (Toxoid) ให้ครอบคลุม เริ่มในเด็กทารกด้วย โดยฉีดในเด็ก อายุ 2-3 เดือน ฉีดเข็ม 2 และ 3 ห่างกัน เข็มละ 2 เดือน แล้วฉีดกระตุ้นหลังเข็มสุดท้ายประมาณ 1 ปี สำหรับเด็กหรือผู้สัมผัสโรค ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ เพื่อป้องกันโรค นอกจากนี้ ไม่ควรอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย จนกว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า เด็กนั้นไม่เป็นพาหะของโรคแล้ว

......................................................................................

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ / ข่าว

สถิต   กะการดี เครือข่ายอาสาประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ รายงาน

สุขภาพดีของท่าน   คือบริการของเราhttp://thatumhealthy.fix.gs